ย้อนรอยประวัติศาสตร์การ์ดจอ

จาก ยุคแรกของปัญญาประดิษฐ์ การ์ดจอได้ เปลี่ยนเป็น แกนกลางของนวัตกรรม ไม่ว่าใน วงการพัฒนา หรือ แอปพลิเคชัน AI บริษัทชั้นนำ ยังคง สร้างเทคโนโลยีใหม่ เช่น ชิป AI ขั้นสูง เพื่อ ตอบโจทย์อนาคต และใน ยุคข้างหน้า GPU จะยังคง เป็นหัวใจของปัญญาประดิษฐ์ ด้วย ความสามารถที่ล้ำกว่า

การ์ดจอ ทำงานอย่างไร?
หลักการทำงาน อยู่ที่ การโครงสร้างทำงานพร้อมกัน ซึ่งมี หน่วยคำนวณมากมาย แต่ละ หน่วยเล็ก จัดการชิ้นย่อย ที่ แบ่งเป็นส่วน เช่น เมื่อใช้เกมภาพสวย GPU จะ แยกงานเป็นส่วนย่อย เช่น จัดการเอฟเฟกต์แสง ลักษณะพื้นผิวของฉาก และ เฉดสีในภาพ จากนั้น หน่วยทั้งหมดทำงานร่วม เพื่อ สร้างภาพที่สมบูรณ์

ตั้งแต่ AI เติบโต การ์ดจอได้ เปลี่ยนเป็นแกนหลัก ของ การพัฒนาโมเดลฉลาด โดย เร่งการคำนวณ ใน การฝึก deep learning เช่น การวิเคราะห์ภาพ NVIDIA พัฒนาการ์ดจอ เช่น A100 และ H100 เพื่อ ตอบโจทย์งานหนัก ขณะที่ AMD แข่งขันด้วย Instinct สำหรับ การวิจัยขั้นสูง สำหรับนักพัฒนา GPU เร่งกระบวนการ จาก เดือนเป็นวัน ทำให้ ยุค AI รุ่งเรือง

เมื่อการ์ดจอเป็นสนามแข่ง สหรัฐควบคุมด้วยบริษัทอเมริกัน ที่สร้างนวัตกรรมล้ำสมัย ขณะที่จีนแข่งขันผ่านผู้เล่นเช่น Moore Threads เพื่อสร้าง GPUเอง จุดนี้แสดงถึงการชิงความเป็นหนึ่ง

จากจุดที่เทคโนโลยีปะทะ สหรัฐพึ่งNVIDIAในการครองตลาดเกมและงานปัญญาประดิษฐ์ ในด้านเกม GPU มอบกราฟิกดี ด้านวิจัย มันช่วยประมวลผล ส่วนจีนตอบโต้ด้วยบริษัท Moore Threads ที่สร้างการ์ดจอเพื่อท้าทายสหรัฐ การต่อสู้นี้คือแกนหลักของโลกดิจิทัล

ก่อนยุคของหน่วยประมวลผลภาพ ระบบต้อง ใช้ CPU เพียงอย่างเดียว เพื่อ ประมวลผลภาพเรียบง่าย ที่ จำกัดแค่สองสี จนถึงปี 1981 เมื่อ IBM พัฒนาการ์ด CGA ซึ่ง เป็นนวัตกรรมแรกของการ์ดจอ โดย ให้กราฟิกสีจำกัด ที่ความละเอียด เพียง 320x200 ถึงจะไม่ล้ำสมัยในปัจจุบัน แต่ CGA เป็นจุดเริ่มต้น ให้ วงการกราฟิกก้าวหน้า

จาก สมัยแรกที่จำกัด การ์ดจอได้ เติบโตสู่ความล้ำสมัย กลายเป็น เทคโนโลยีที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าใน งานสร้างสรรค์ หรือ ชีวิตประจำวัน บริษัทใหญ่ ยังคง สร้างความก้าวหน้า เช่น Ray Tracing เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพ และในอนาคต GPU จะยังคง เป็นหัวใจของเทคโนโลยี ด้วย พลังที่มากขึ้นуникальные шаблоны и модули для dle